64 สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถยนต์ รู้ไว้ ปลอดภัยชัวร์

  1. ไฟตัดหมอกด้านหน้า : ช่วยปรับทัศนวิสัยการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น เปิดตอนมีหมอกควันเยอะ หรือฝนตกหนักก็ได้
  2. ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ (มีการทำงานผิดพลาด) : เกิดความผิดปกติของระบบพวงมาลัย ทำให้บังคับทิศทางลำบาก 
  3. ไฟตัดหมอกด้านหลัง : ใช้ตัดหมอกด้านหลัง ต้องระวังรถคันหลังที่ขับตามมาด้วย 
  4. ระดับน้ำล้างกระจกอยู่ในระดับต่ำ : ควรเติมน้ำผสมกับน้ำยาทำความสะอาดกระจกลงไปเล็กน้อย จะช่วยทำความสะอาดได้ดีกว่าน้ำสะอาด
  5. ผ้าเบรกมีปัญหา : อาจจะมีเสียงดังระหว่างเบรก ควรรีบตรวจสอบ
  6. ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่ : ช่วยคุมความเร็วให้อยู่ในระดับคงที่ ผู้ขับขี่ต้องเป็นคนตั้งค่าเอง ส่วนมากจะมีในรถยนต์รุ่นใหม่
  7. สัญญาณไฟเลี้ยว ซ้าย-ขวา : อันนี้สำคัญมาก อย่าลืมเปิดทุกครั้งก่อนเลี้ยวนะคะ 
  8. ระบบตรวจจับน้ำฝน และแสงมีปัญหา : มีผลต่อระบบการทำงานของที่ตรวจจับน้ำฝน
  9. ระบบความเย็น : อาจจะเกิดจากน้ำยาแอร์รั่ว หรือระบบแอร์ภายในมีปัญหา ส่งผลให้แอร์ไม่เย็น 
  10. แสดงผลข้อมูลทั่วไป : ข้อมูลของรถ วันเวลา ระยะรถ
  11. แจ้งเตือนความร้อนระบบเครื่องยนต์ดีเซล : เครื่องยนต์มีความร้อน ให้ดับเครื่องหรือพักให้เครื่องเย็นลง 
  12. มีหิมะที่พื้นผิวถนน : ต้องขับโดยระมัดระวัง ไม่ค่อยพบในไทย 
  13. แจ้งเตือนสวิตช์สตาร์ทเกิดการผิดพลาด : ส่วนมากจะเกิดในรถรุ่นใหม่ ที่ต้องใช้สวิตซ์ในการสตาร์ทเครื่อง
  14. แจ้งเตือนกุญแจไม่ได้อยู่ในรถ : รถจะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องได้ หากไม่มีกุญแจอยู่ในรถ พบในรถรุ่นใหม่ 
  15. แบตเตอรีของกุญแจมีพลังงานต่ำ : เตือนให้รีบเปลี่ยนแบตเตอรีของกุญแจรถ
  16. แจ้งเตือนระยะห่างของรถคันหน้า :  รถของเราใกล้คันหน้ามากเกินไป ควรมีระยะห่างไม่ต่ำกว่า 60 เมตร เพื่อความปลอดภัย
  1. แรงดันน้ำมันคลัตช์ : หากแรงดันตก จะส่งผลกับระบบเบรก ต้องรีบตรวจเช็ก 
  2. แรงดันน้ำมันเบรก : มีผลต่อระบบเบรก รีบตรวจเช็ก
  3. แจ้งเตือนพวงมาลัยล็อก : แก้ไขได้โดยการเสียบกุญแจเข้าไปใหม่ และขยับพวงมาลัยเล็กน้อย  
  4. เปิดไฟสูง : เพิ่มทัศนวิสัยในขับขี่ตอนกลางคืน ควรขับขี่ให้ห่างจากคันหน้า 
  5. แจ้งเตือนความดันลมยางอ่อน : รีบเติมลมยาง 
  6. ไฟด้านข้างถูกใช้งาน : ไฟด้านข้างหรือด้านในห้องโดยสาร กำลังใช้งานอยู่ 
  7. สัญญาณไฟภายนอกปัญหา : ระบบไฟด้านนอกมีปัญหา อาจจะเกิดจากไฟเลี้ยวไม่ติด 
  8. สัญญาณไฟเบรกมีปัญหา :  มีการกระพริบผิดปกติ หรือไม่กระพริบเลย ควรตรวจสอบและรีบเปลี่ยน
  9. แจ้งเตือนตัวกรองน้ำมันของเครื่องยนต์ดีเซลมีปัญหา : เกิดปัญหาที่กรองน้ำมันเครื่อง รีบตรวจเช็ก 
  10. เตือนการเชื่อมต่อของสายพ่วง : มีการเชื่อมต่อของระบบสายพ่วงแบตเตอรี 
  11. เตือนระบบการป้องกันการสะเทือนมีปัญหา : ส่งผลต่อการขับขี่บนทางไม่เรียบ 
  12. รักษาระยะห่างการใช้ทางจราจร : เซนเซอร์รถจะทำงาน ถ้าขับขี่ใกล้ผิวถนนมากเกินไป 
  13. เตือนการบำบัดไอเสียผิดปกติ : ท่อไอเสียทำงานผิดปกติ รีบตรวจเช็ก 
  14. เตือนเข็มขัดนิรภัย : รัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยค่ะ 
  15. ระบบเบรกระหว่างจอดรถเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล : จะทำงานเมื่อขึ้นทางลาด 
  16. แจ้งเตือนพลังงานของแบตเตอรี : แบตเตอรีอาจจะใกล้หมด ควรตรวจเช็กและรีบเปลี่ยน
  1. ระบบจอดรถอัตโนมัติ : ช่วยจอดรถให้เอง พบในระบบรุ่นใหม่ 
  2. ระบบแจ้งเตือนตรวจเช็กสภาพรถ : เครื่องยนต์มีปัญหา ควรรีบตรวจเช็ก
  3. ระบบปรับแสงไฟหน้าอัตโนมัติ : ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
  4. ปรับระดับไฟหน้ารถ : ปรับไฟสูง-ต่ำด้วยตัวเอง
  5. แจ้งเตือนสปอยเลอร์ด้านหลังมีปัญหา : สปอยเลอร์อาจจะได้รับความเสียหาย
  6. ระบบเปิดหลังคาอัตโนมัติ : พบในรถ Supercar หรือรถที่เปิดหลังคาได้
  7. ระบบเตือนถุงลมนิรภัย : เตือนระบบถุงลมมีปัญหา รีบตัวเช็ก
  8. แจ้งเตือนเบรกมือ : เบรกมือค้าง ควรรีบปลดเบรกมือออก หากปล่อยทิ้งจะทำให้เกิดปัญหาตามมา
  9. มีน้ำเข้ามาเจือปนในน้ำมันเชื้อเพลิง (รีบแก้ไขโดยด่วน) : อันตรายมาก รีบตรวจเช็ก
  10. ปิดการทำงานของถุงลมนิรภัย : ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน
  11. ควรตรวจสภาพรถ : ระบบภายใน หรือเครื่องยนต์อาจจะมีปัญหา ต้องรีบตรวจเช็ก
  12. เปิดไฟขอทาง : หรือไฟฉุกเฉิน ควบคุมได้ด้วยตัวเอง
  13. กรองอากาศสกปรก : ส่งผลกับอากาศภายใน
  14. โหมดประหยัดพลังงาน : ช่วยประหยัดน้ำมัน ประสานการทำงานของระบบรถ ให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
  15. ระบบควบคุมรถขณะลงเขา : ช่วยให้รถวิ่งบนเนินด้วยความเร็วคงที่ ให้คนขับมีสมาธิบังคับทิศทางรถได้มากขึ้น
  16. ระบบเตือนความร้อนของหม้อน้ำ : อันนี้สำคัญมากค่ะ หากขึ้นเตือนให้รีบจอดพักทันที รอให้รถหายร้อน และรีบแก้ไข
  1. ระบบเบรก ABS : ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกกะทันหัน เมื่อประสบอุบัติเหตุ
  2. ตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน : มีผลทำให้รถสตาร์ทติดยาก อืด และเร่งไม่ขึ้น
  3. ประตูรถเปิดอยู่ : เตือนเมื่อเปิดประตูรถทิ้งไว้ 
  4. ฝากระโปรงหน้าเปิดอยู่ : เตือนเมื่อฝากระโปรงหน้าเปิดทิ้งไว้
  5. น้ำมันเชื้อเพลิงเหลือน้อย : น้ำมันใกล้หมด รีบเติมค่า 
  6. เตือนระบบเกียร์อัตโนมัติ : ระบบเกียร์อัตโนมัติมีปัญหา ส่วนใหญ่มักจะขึ้นเตือนเมื่อน้ำมันเกียร์มีอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ
  7. จำกัดความเร็วทำงาน : เตือนเมื่อความเร็วมากเกินกำหนด 
  8. ระบบกันสะเทือนผิดปกติ : ช่วงล่างผิดปกติ ต้องรีบตรวจเช็ก
  9. แจ้งเตือนความดันน้ำมันเครื่องต่ำ : รีบตรวจเช็กด่วน อาจจะเกิดความเสียหายภายหลังได้ 
  10. ระบบไล่ฝ้าที่กระจกทำงาน : สามารถควบคุมได้เอง 
  11. กระโปรงท้ายรถเปิดใช้งานอยู่ : เตือนเมื่อกระโปรงท้ายรถเปิดอยู่ 
  12. ระบบควบคุมการทรงตัวของรถยนต์ : หรือระบบ ESC ช่วยในการควบคุมการทรงตัว ป้องกันรถลื่นไถล
  13. เซ็นเซอร์ระบบน้ำฝนถูกใช้งาน : กำลังใช้งานที่ปัดน้ำฝนอยู่
  14. แจ้งเตือนเครื่องยนต์ขัดข้อง : ระบบภายในเครื่องยนต์มีปัญหา ต้องรีบตรวจสอบ 
  15. ระบบไล่ฝ้ากระจกด้านหลัง : ควบคุมได้ด้วยผู้ขับขี่ 
  16. ที่ปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติ : ทำงานอัตโนมัติ เมื่อฝนตก

Ref. https://www.wongnai.com/articles/car-signals-meaning?ref=ct