10 สิ่งเกี่ยวกับรถที่ควรเช็คให้เป็นนิสัย

1. สัญญาณเตือนหน้าปัดทุกครั้งมีความหมาย
     สังเกตไหมว่า ทุกครั้งที่เราสตาร์ทรถจะมีเครื่องหมายสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ เข็มขัดนิรภัย น้ำมันเครื่อง ระดับความร้อน และระดับน้ำมัน ซึ่งแต่ละสัญลักษณ์ก็มีสีที่แตกต่าง คือ สีเขียวแปลว่าใช้งานได้ปกติ, สีเหลืองเป็นการเตือนแต่ยังสามารถใช้ได้อยู่ สีแดงบอกถึงอันตรายให้หยุดใช้รถและรีบตรวจสอบความผิดปกติ 
     ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องพื้นฐานก็จริง แต่ก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่บางคนมองข้าม และรู้ตัวเอาอีกทีก็ตอนที่เกิดความเสียหายแล้ว

 

2. ไฟส่องสว่างคือความปลอดภัยทั้งของเราและคนอื่น
     ไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ คือสิ่งที่เราใช้ทุกครั้งเวลาขับรถ แต่เรามักจะละเลยว่าไฟเหล่านี้อยู่ในสภาพใช้งานได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟหลัง ไฟเลี้ยว หรือไฟเบรก การสึกหรอของอุปกรณ์เหล่านี้เป็นจุดกำเนิดของอุบัติเหตุบนท้องถนน และอุบัติเหตุก็เป็นตัวการที่ทำให้อายุการใช้งานของรถสั้นกว่าที่ควรจะเป็นด้วย

3. รถเราก็ต้องการน้ำเหมือนกัน
     ไม่ใช่แค่ร่างกายมนุษย์เท่านั้นที่ต้องการน้ำ แต่รถเองก็เช่นกัน ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำกลั่น น้ำหล่อเย็น เป็นต้น เราต้องหมั่นตรวจเช็คน้ำเหล่านี้ให้เป็นนิสัย เพราะทุกน้ำมีความสำคัญและส่งผลถึงทุกการทำงานของรถที่คุณรัก เสียเวลาตรวจเช็คไม่มากแต่ดีกว่าต้องมาเสียเงินซ่อมรถที่หลังนะ

4. ถ้าแอร์ไม่เย็นจะเป็นเรื่อง
     นึกถึงสภาพอากาศในปัจจุบันที่แสงแดดแผดเผากันทุกฤดูขนาดนี้ ถ้าวันใดที่แอร์ของรถเสียขึ้นมาคงไม่สนุกแน่ๆ เพราะฉะนั้นควรระวังอย่าให้น้ำยาแอร์หมด เพราะนอกจากจะทำให้อากาศร้อนแล้ว ยังส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้นและสุดท้ายก็อาจพังก่อนเวลาอันควร

5. กระจกเบลอหรือเธอไม่ชัด
      อีกสิ่งที่สำคัญคือกระจกในทุกตำแหน่ง ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวิสัยทัศน์ในการขับขี่ อย่าลืมรักษากระจกให้สะอาด เช็คให้ถูกตำแหน่งกับสายตาเรา เรื่องกระจกนี้ยังรวมไปถึงการตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝนให้มั่นใจว่ายังไม่เสื่อมสภาพด้วย

6. ตรวจเช็คลมยางให้เป็นกิจกรรมประจำเดือน
     เพราะรถมีหลายรุ่น ยางรถมีหลายขนาดและใช้ลมยางที่แตกต่างกันไป สิ่งที่เราควรทำคือ ตรวจเช็คลมยางเป็นประจำ นอกจากนี้ ควรเช็คดอกยางด้วยว่าหายไปหมดหรือยัง หรือกำหนดไปเลยก็ได้ว่าถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ต้องเปลี่ยนทุกๆ 2 ปี

7. เลขไมล์บอกอายุรถ
     นอกจากจะนับว่าเราซื้อมาปีไหนแล้ว ต้องดูที่อายุการใช้งานของรถด้วยว่าเราใช้ไปกี่กิโลเมตร เพื่อที่เราจะนำรถไปตรวจสภาพได้ถูกต้อง ตรงตามกำหนด เป็นการยืดอายุการใช้งานของรถและลดรายจ่ายค่าซ่อมรถได้อีกทางหนึ่ง ที่สำคัญ ถ้ามีแผนจะขายรถต่อ อย่าลืมว่าราคาของรถมือสองส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานนี่ล่ะ

8. ใครขับ คนนั้นเช็ค
     ต่อให้คุณมีคนทำงานบ้านที่ดูแลรถให้ แต่เมื่อคนที่ขับรถคือคุณ เพราะฉะนั้นก่อนใช้และระหว่างใช้รถแต่ละครั้งให้สังเกตสภาพรถด้วยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า รวมถึงประเมินสภาพตัวเองด้วยว่าอยู่ในสภาพพร้อมขับรถหรือไม่

9. ราคาน้ำมันต้องติดตาม
     ราคาน้ำมันมีผลต่อชีวิตประจำเราอย่างมาก เพราะค่าใช้จ่ายของใช้รถหลักๆ ก็เป็นค่าน้ำมันนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นมีเหตุผลอะไรที่คุณไม่จะติดตามราคาน้ำมันรถ และนอกจากดูเรื่องราคาแล้ว ก็อย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าประเภทของน้ำมันที่ใช้อยู่นั้นเหมาะสมกับรถของเราด้วย

10. ทำประกันและเสียภาษีไว้อุ่นใจกว่า
     รถทุกคันจำเป็นต้องมีประกันรถยนต์ตาม พรบ.เพื่อนำไปเสียภาษี ดังนั้น เราต้องหมั่นตรวจเช็คเสมอว่ารถของเรา ประกันหมดอายุแล้วหรือยัง หรือเสียภาษีตามกำหนดหรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุ จะได้มีประกันในการบรรเทาความเดือดร้อนให้เราได้และไม่ทำผิดกฎหมายจราจรด้วย

Ref. https://www.sanook.com/auto/57277/