การดูแลรักษาสีรถ

สีรถยนต์ก็เปรียบเสมือนสีเสื้อผ้า หากเราชอบแต่งตัวสวยๆ เท่ๆ ให้ดูดี ไร้จุดด่าง ไม่มีรอยหมองอย่างไร เราก็ย่อมอยากให้รถของเรามีความงดงามอย่างนั้น และการดูแลสีรถยนต์ให้สวยเสมอไม่จำเป็นต้องเข้าร้านคาร์แคร์เสมอไป แค่เพียงต้องเพิ่มความใส่ใจในการดูแลสีรถยนต์ของเจ้าของรถก็เพียงพอแล้ว วันนี้ Carsome มี 4 วิธีดูแลสีรถยนต์ให้สวย เงางาม ดูใหม่เสมอ เป็นวิธีที่ง่าย ไม่ได้ยากอย่างที่หลายคิด

1.ล้างรถเป็นประจำๆ

การดูแลรักษาสีรถยนต์

การล้างรถบ่อยๆ เป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการรักษาสีรถยนต์ เพียงเริ่มใช้น้ำเปล่าล้างให้ทั่วรถก่อน 1 รอบ เพื่อขจัดฝุ่นต่างๆ ที่เกาะตัวรถอยู่ จากนั้นใช้สบู่หรือแชมพูล้างรถที่ได้มาตรฐาน พร้อมกับใช้ฟองน้ำถูกเป็นแนวตรง หลีกเลี่ยงการถูเป็นวงกลมเพราะสิ่งสกปรกบนพื้นผิวอาจจะติดวนกลับมาขีดเขี่ยนบอดี้รถได้ พอใช้ฟองน้ำถูตามส่วนต่างๆ ของรถจนครบแล้ว ให้ล้างคราบโฟมและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกด้วยน้ำเปล่า

ส่วนขั้นตอนต่อไป “การเช็ดรถให้แห้ง” ก็สำคัญกับสีรถเช่นกัน เพราะการปล่อยให้รถผึ่งลมจนแห้งเองจะทำให้เกิดคราบน้ำ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ในส่วนประกอบของน้ำ ไม่ว่าจะมาจากแหล่งไหนก็ตาม มักมีแร่ธาตุผสมอยู่ ซึ่งมีผลให้สีเสียหายได้ในระยะยาว การทำให้รถแห้งจึงควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดตามพื้นผิวให้แห้งจะดีที่สุด

2.ลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสี

การดูแลรักษาสีรถยนต์

การแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีจะเป็นการเคลือบพื้นผิวของรถ ช่วยสร้างชั้นป้องกันให้รถจากคราบสกปรก มลภาวะต่างๆ น้ำและสารเคมีอื่นๆ โดยแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีก็ช่วยในการปกปิดริ้วรอยหรือจุดด่างดำขนาดเล็กๆ ได้ด้วย โดยการลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีเหล่านี้ต้องทำตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด เพราะแต่ละผลิตภัณฑ์มีการออกแบบ วิจัย ที่ไม่เหมือนกัน จึงมีวิธีดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาใช้ที่แตกต่างกัน

วิธีการลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีรถเพื่อดูแลรักษาสีรถยนต์ เบื้องต้น มีดังนี้

1. ล้างรถให้สะอาดพร้อมเช็ดให้แห้งก่อนเสมอ

2. ลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีบนฟองน้ำเพียงเล็กน้อย ไม่ควรใช้เยอะในคราวเดียว เพื่อป้องกันการทิ้งคราบบนตัวถังรถ

3. ลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบลงบนตัวรถเป็นส่วนๆ เพราะการลงแว็กซ์ทีเดียวรอบตัวรถ จะทำให้แว็กซ์สัมผัสอากาศ ทำให้เกิดการแข็งตัว และทำให้ประสิทธิภาพลดลง รวมไปถึงทำให้เกลี่ยยากขึ้นอีกด้วย

4. ถูแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบบนพื้นผิวตัวรถในทิศทางแบบหมุนวน ไม่ถูเป็นแนวยาว เพราะการถูเป็นวงกลมจะเกลี่ยแว็กซ์ได้ทั่วถึงกว่าในจุดที่ลง

5. เมื่อแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบแห้งแล้ว ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์, ผ้าชามัวร์ หรือผ้าเนื้อนิ่มอื่นๆ ในการเช็ดแว็กซ์หรือน้ำยาส่วนเกินออก

3.หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด

การดูแลรักษาสีรถยนต์

เพราะรังสี UV ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อผิวหนังของสิ่งมีชีวิต แต่กับสีรถยนต์เองก็เช่นกัน แสงอาทิตยก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์กับสีรถ ส่งผลให้สีรถซีดลง ดูเก่ากว่าสภาพความเป็นจริง นอกจากนี้ความร้อนจะมีผลกับภายในของรถยนต์อีกด้วย โดยเฉพาะวัสดุที่หุ้มคอนโซลรถและชิ้นส่วนที่เป็นหนัง หากตากแดดนานๆ ชิ้นส่วนเหล่านี้จะแห้ง แตก หากเป็นไปได้ควรจอดในที่มีร่มเงา เพียงเท่านี้ก็เพียงพอต่อการรักษาอายุสีรถและสภาพภายในได้อีกนาน

4. เข้าอู่ทำสีรถยนต์เมื่อสีโดยรวมของตัวรถ เริ่มไม่เหมือนเก่า

การดูแลรักษาสีรถยนต์

หลังจากใช้งานรถยนต์มาได้ระยะเวลาหนึ่ง การเข้าอู่ทำสีก็เป็นเรื่องจำเป็นเหมือนกัน เพราะตัวถังรถยนต์อาจมีรอยขีดข่วน คราบต่างๆ ที่ต้องให้ช่างเฉพาะทางปรับสภาพ เพื่อฟื้นคืนสภาพภายนอก ให้ดูดีใกล้เคียงกับตอนออกจากศูนย์หรือโชว์รูมมากที่สุด

การดูแลสีรถให้ดูดี ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างลุคที่ดูดี สะท้อนถึงความใส่ใจให้เจ้าของรถแล้ว ก็มีผลให้เจ้าของรถรู้สึกดีทุกครั้งที่มองเช่นกัน นอกจากความสุขทางใจที่เจ้าของจะได้รับแล้วนั้น สีของรถยนต์ที่ได้รับการดูแลอย่างดียังส่งผลถึงราคาประเมิน หากเจ้าของรถต้องการขายรถอีกด้วย

Ref. https://www.carsome.co.th/news/item/4-วิธีการดูแลสีรถยนต์ให้